news
ข่าวสารและบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้
In-house Training
สัญญาณอันตราย 5 อาการ “ออฟฟิศซินโดรม” เกี่ยวกับพนักงานออฟฟิศ เช็คด่วน!!!!!
ออฟฟิศซินโดรมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยๆอีกต่อไป คนที่เป็นต้องประสบภาวะทรมานจนบอกกับตัวเองว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ จะไม่ใช้ร่างกายของตัวเองเปลืองขนาดนี้ เพราะหากสายเกินไปคุณต้องทนทรมานกับการต้องผ่าตัด หรือทำกายภาพกันทุกอาทิตย์ เสียเวลาเสียเงินไม่ใช่น้อยก่อนที่ร่างกายจะพัง มันมีสัญญาณเล็กๆ บอกเราอยู่ก่อนหน้า จะมีอาการอะไรบ้าง เช็คด่วนจ้า
1. ปวดหัวขนาดที่ยาแก้ปวดธรรมดาเอาไม่อยู่
อาการปวดหัว ปวดศีรษะอาจเกิดขึ้นได้นานๆ ครั้งจากการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ความเครียดสะสม พักผ่อนน้อย หรือใช้สายตาในการจ้องเพ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป แต่หากปวดศีรษะบ่อยๆ แล้วเริ่มทานยาแก้ปวดตัวเก่าไม่หาย จนต้องเพิ่งยาแก้ปวดตัวใหม่ที่แรงกว่าเดิม อาจมีความเสี่ยงในการเป็นไมเกรนได้
2. ตาพร่า
อาการตาพร่า อาจมาจากการเวียนศีรษะชั่วคราว เนื่องจากการพักผ่อนน้อย ไม่ได้ทานข้าว หน้ามืดจะเป็นลมล้มฟุบไปกับโต๊ะ หรือบางท่านที่รู้สึกโหยน้ำตาล ตาพร่ามัว มือสั่น ก็แก้ได้ด้วยการทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล แต่หากเป็นอาการตาพร่ามัวบ่อยๆ อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเยื่อบุนัยน์ตาเสื่อม และเสี่ยงที่จะเป็นต้อหินได้ในอนาคต
“ต้อหิน” มากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าจะอายุน้อยลงเรื่อยๆ เสียด้วย ซ้ำร้าย กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคต้นหินอาจจะสายเกินแก้ ต้องสูญเสียการมองเห็นไปชั่วชีวิต เพราะ 9 ใน 10 ไม่มี อาการ บ่งบอก ดวงตาถูกทำลายไปกว่า 50% จนกลายเป็นตาบอดถาวร
3 วิธีง่ายๆ เช็ค “ต้อหิน”
1. เช็คความคมชัดของสายตาตัวเอง โดยการปิดตา แล้วมองไปที่วัตถุใดวัตถุหนึ่ง เช่น ป้ายที่มีตัวอักษร โดยปิดตามองทีละข้าง
2. สังเกตภาพจากด้านข้างก่อน ว่ามีความคมชัดเท่ากับภาพตรงกลางหรือไม่ เพราะปกติการสูญเสียการมองเห็นมักเริ่มจากด้านข้างก่อน
3. หากเป็นอาการต้อหินปกติ อาการจะค่อยๆ เป็นอย่างช้าๆ จนผู้ป่วยอาจไม่ทันได้สังเกตถึงความผิดปกติของสายตาตัวเอง แต่หากเป็นต้อหินเฉียบพลัน จะมีอาการปวดศีรษะ ปวดตาอย่างรุนแรง และเฉียบพลัน ตาแดง น้ำตาไหล ดวงตาสู้แสงไม่ได้ ตามัว เห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟ และคลื่นไส้อาเจียนได
3. ปวดไหล่ คอ และหลังแบบร้าวๆ จิ๊ดๆ แปล๊บๆ
อาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เมื่อยไหล่เมื่อยหลังที่เคยไปนวดๆ 1-2 ชั่วโมง กลับกลายเป็นอาการปวดที่สร้างความทรมานให้กับตัวเองทุกครั้งที่นั่งทำงาน จะใช้ยาฉีด ยาแปะ ยาทาแก้ปวดก็ทำให้รู้สึกสบายได้ไม่กี่ชั่วโมง อาการเหล่านี้ส่อเค้าอาการออฟฟิศซินโดรมอย่างชัดเจน โดยอาจมีปัญหาของกล้ามเนื้อ กระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูก ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ ใครๆ ก็ปวดได้ถ้าอยู่ในช่วงทำงานหนัก แต่ปวดแบบไหนที่เป็นสัญญาณอันตรายว่าเราอาจเสี่ยงอยู่ในอาการ “หมอนรองกระดูกเสื่อมทับเส้นประสาท”
วิธีป้องกันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
นอกจากจะต้องระมัดระวังในการขยับร่างกาย งดเว้นการยกของหนัก และปรับเปลี่ยนอิริยาบถระหว่างนั่งทำงานแล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยยืดอายุของหมอนรองกระดูกให้ยังแข็งแรง ไม่เสื่อมได้ง่ายๆ อีกด้วย
4. มือชา ปลายนิ้วชา
จากที่นิ้วมือรัวคียบอร์ดอย่างคล่อง กลับกลายเป็นว่าเริ่มคลิกเมาส์ไม่ถนัด นิ้วมือแข็งตึง มือชา ปวดข้อ ไปจนถึงปลายนิ้วชา อาจมีปัญหาที่เส้นเอ็นที่เกิดจากการเกร็งของนิ้วมากเกินไป หรืออาจจะเลยเถิดไปถึงเส้นประสาทมีปัญหา มีความเสี่ยงในการเป็นนิ้วล็อก หรือปลายประสาทอักเสบได้
“ชาตามปลายมือปลายเท้า” อยู่บ้างซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจกับอาการที่เกิดขึ้น เพราะคิดว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว และสามารถหายได้เอง แต่หารู้ไม่ว่า “อาการชา” ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคปลายประสาทอักเสบ ซึ่งถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษา ก็อาจจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบ และความรู้สึกรับรู้ลดลงจนหมดความรู้สึกได้
5. ปัสสาวะกระปริบประปอย ปวดแต่ปัสสาวะไม่ออก
อาการนี้มักเป็นบ่อยกับพนักงานสาวที่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ค่อยได้เข้าห้องน้ำ ต้องอั้นปัสสาวะบ่อยๆ มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ที่สร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยมากกว่าที่คิด
“ปัสสาวะบ่อย” อาจเป็นอาการที่ใครหลายๆ คนเป็นอยู่ แต่ก็ได้แค่สงสัย และไม่ได้เข้ารับการตรวจกับแพทย์ จริงๆ แล้วคุณอาจเสี่ยงเป็นโรคอันตรายมากมาย ดังต่อไปนี้
ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไป
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โรคเบาหวาน
โรคเบาจืด
โรคไต
นิ่ว/ก้อนเนื้อบริเวณกระเพาะปัสสาวะ
ต่อมลูกหมากโต
ดื่มน้ำมากเกินไป
หากมีอาการปัสสาวะบ่อยราวทุกๆ ชั่วโมง หรือปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน รวมไปถึงปวดปัสสาวะมากจนกลั้นแทบไม่อยู่ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดค่ะ