news
ข่าวสารและบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้
In-house Training
หัวใจสำคัญของการทำงานเป็นทีม
ในการทำงานร่วมกันในแต่ละทีมที่ต้องอาศัยการทำงานที่เป็นทีมเวิร์ค เพื่อช่วยให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะหากพนักงานในองค์กรแค่ละองค์กรนั้น ได้ตระหนักและเห็นว่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของทีมจะทำให้เขานั้นมีความสามารถต้องคิดและพิจารณาด้วยว่าทำอย่างไรให้ทีมของเรานั้นถึงจะไปถึงจุดหมายได้ นอกจากทีมจะประสบความสำเร็จแล้ว ยังส่งผลดี
ต่อองค์กรของเราด้วย ซึ่งจะช่วยให้องค์กรที่เราอยู่นั้นประสบความสำเร็จได้โดยง่าย ซึ่งหัวใจสำคัญของ การทำงานเป็นทีม นั้นมีอะไรบ้าง ?
หัวใจของการทำงานเป็นทีม
ในบริษัท ในแต่ละแผนกแต่ละฝ่ายนั้น สิ่งที่ทุกคนในทีมนั้นต้องพึงปฏิบัตินั่นก็คือ ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน หากอยากจะประสบความสำเร็จในทีมและงานผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมายหากทุกคนในทีมต้องมีความจริงใจให้กันคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันนั้น รวมไปถึงการมีน้ำใจซึ่งกันและกัน รู้จักให้อภัยและคอยเป็นกำลังใจในการทำงาน หากเพื่อนร่วมทีมนั้นรู้สึกท้อในการทำงานบ้างในบางครั้ง
เชื่อว่าในแต่ละองค์กรหรือว่าในแต่ละทีมนั้น ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นและให้แก้ไขปัญหานั้นแทบทุกวัน และสิ่งที่จะทำให้ผ่านไปได้คือ ความรัก ความสามัคคีซึ่งกันและกันในทีม การให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทีม มีน้ำใจต่อกัน เป็นที่ปรึกษาที่ดี เชื่อว่าแม้ปัญหาที่มีนั้น จะหนักแค่ไหน หากเราได้เพื่อนร่วมทีมที่ดี เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาและคลี่คลายปัญหานั้นไปให้ทางที่ดีได้
การทำงานเป็นทีม นั้น ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ สามารถโต้แย้งได้ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับหลักการและข้อกำหนดเพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาเหล่านั้นให้ผ่านไปได้ด้วยดี และยังเป็นประโยชน์ต่อทีมและองค์กรของเราด้วย ปัจจุบันมีหลาย ๆ องค์กร ที่กำลังเผชิญกับปัญหา โดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีคนหลายส่วนงานที่ต้องติดต่อประสานงานกันหลายส่วนงาน ที่ต้องเผชิญกับปัญหากับความขัดแย้งในองค์กร ในหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างพนักงานที่อาจะเกิดจากความกดดันในการทำงานส่วนหนึ่ง ดังนั้น ในการจัดอบรมเพื่อให้พนักงานได้ทราบถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจนนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรจัดการ โดยเน้นเรื่องของความหมายที่แท้จริงของการทำงานเป็นทีม ให้พนักงานแต่ละคนนั้นได้เห็นความสำคัญและตระหนักถึงหัวใจของ การทำงานเป็นทีม นอกจากจะเกิดประโยชน์ต่อตัวเองแล้ว ยังส่งผลดีต่อองค์กรของเราด้วยโดยจะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ เมื่อองค์กรประสบความสำเร็จ มีกำไรเข้ามาสู่องค์กรมากมาย ผลตอบแทนต่าง ๆ ที่เราจะได้รับนั้นย่อมส่งผลดีและต้องภาคภูมิใจอย่างแน่นอน กับสิ่งที่เราได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ รับรองว่าไม่เสียเปล่า
สำหรับเทคนิคง่าย ๆ ก็จะทำให้การทำงานแบบทีมเวิร์คสำเร็จนั้น สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
การสร้างจุด “โฟกัส” เพื่อ การทำงานเป็นทีม
โดยทีมงานแต่ละคนนั้นต้องไม่หลงลืมที่จะสร้างจุด “โฟกัส” ให้กับการทำงานการทำเช่นนี้ จะทำให้เรามีทิศทางในการทำงานเป็นไปในทางเดียวกัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำงานให้ไปถึงยังจุดหมายเดียวกัน ตั้งเป้าหมายที่เราจะทำร่วมกันให้ชัดเจน และทำหน้าที่ของแต่ละคนที่ได้วางไว้นั้นให้เต็มที่ และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ หากมีความสุขในงานที่ทำแล้วย่อมส่งผลต่องานด้วย ทั้งนี้ การสร้างจุดโฟกัสให้ทีมของตัวเองจะทำให้เราสามารถมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จที่ทีมของเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ได้สำเร็จ
เพิ่มความรู้สึกร่วมต่อการทำงานโดยทำให้ทุกคนในทีมนั้น รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้นำร่วมกัน
สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ให้ทุกคนในทีมนั้นปลดปล่อยพลังความสามารถของตัวเองออกมา เพราะไม่ว่าจะทำงานใดก็แล้วแต่ให้สำเร็จนั้น เป้าหมายที่ได้วางไว้นั้นจะไม่มีวันสำเร็จได้เพียงคนทำงานเพียงคนเดียว แต่ต้องอาศัยการทำงานที่เป็นทีมเวิร์คที่ดี โดยทุกคนมีความรู้สึกร่วมในการทำงานแต่ละอย่าง ตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นให้สำเร็จได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกความคิดเห็น การให้กำลังใจ การเข้าใจซึ่งกันและกัน การให้อภัย รวมไปถึงการร่วมมือร่วมใจในการทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน
ทีมงาน (Team Work) หมายถึง กลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์กันค่อนข้างจะใกล้ชิด และคงความสัมพันธ์อยู่ค่อนข้างจะถาวรซึ่งประกอบด้วยหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน โดยร่วมกันทำงานให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของทีมงาน
“การทำงานเป็นทีม” เป็นความร่วมมือร่วมใจของบุคคล เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายร่วมกัน โดยต้องมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ (3P) ได้แก่
1. มีวัตถุประสงค์ (Purpose) ต้องชัดเจน
2. มีการจัดลำดับความสำคัญ (Priority) ในการทำงาน
3. มีผลการทำงาน (Performance)
การแบ่งทีมในองค์กรสามารถที่จะแบ่งประเภท ตามวัตถุประสงค์ได้ 4 รูปแบบคือ
1. ทีมแก้ปัญหา (Problem - Solving Teams) ประกอบด้วยกลุ่มของพนักงาน และผู้บริหารซึ่งเข้ามารวมกลุ่มด้วยความสมัครใจ และประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่ออภิปรายหาวิธีการสำหรับการแก้ปัญหา โดยทั่วไปทีมแก้ปัญหาทำหน้าที่เพียงให้คำแนะนำเท่านั้น แต่จะไม่มีอำนาจที่จะทำให้เกิดการกระทำ ตามคำแนะนำ ตัวอย่างของทีมแก้ปัญหาที่นิยมทำกัน คือ ทีม QC (Quality Circles)
2. ทีมบริหารตนเอง (Self - Managed Teams) หมายถึง ทีมที่สมาชิกทุกคนล้วนรับผิดชอบต่อลักษณะทั้งหมดของการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง โดยเป็นอิสระจากฝ่ายบริหาร ซึ่งสมาชิกจะปฏิบัติงานโดยทั่วไป มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบสำหรับงาน ทีมบริหารตนเองสามารถที่จะเลือกสมาชิกผู้ร่วมทีม และสามารถให้สมาชิกมีการตรวจสอบซึ่งกันและกัน
3. ทีมที่ทำงานข้ามหน้าที่กัน (Cross - Function Teams) เป็นการประสมประสานข้ามหน้าที่งาน ความสามารถในการดึงทรัพยากรบุคคลผนวกเข้าด้วยกันจากหน้าที่ทางธุรกิจที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างสมรรถภาพในด้านความแตกต่าง โดยเป็นการใช้กำลังแรงงาน ตั้งเป็นทีมข้ามหน้าที่ชั่วคราวซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคณะกรรมการ (Committees) เข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน, พัฒนาความคิดใหม่ๆ ร่วมมือกันแก้ปัญหา และทำโครงการที่ซับซ้อน ทีมข้ามหน้าที่ ต้องการเวลามากเพื่อสมาชิกจะต้องเรียนรู้งานที่แตกต่าง ซับซ้อน และต้องใช้เวลาในการสร้างความไว้ใจ และสร้างการทำงานเป็นทีม เนื่องจาก แต่ละคนมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน
4. ทีมเสมือนจริง (Virtual Teams) ลักษณะการทำงานจะเป็นทีม แต่สภาพการทำงานจะแยกกันอยู่ ดังนั้นจึงต้องการระบบในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทีมจะมุ่งเน้นความสำเร็จของงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของงานร่วมกัน แต่จะมีการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ด้านความรู้สึกทางสังคมในระดับต่ำ ข้อควรระวัง : การทำงานเป็นทีมไม่ได้เป็นคำตอบในการแก้ไขปัญหาเสมอไป เนื่องจากการทำงานเป็นทีมต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากกว่าการทำงานคนเดียว